ไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ (Hydrochlorothiazide) HCTZ
บทนำ
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ (Hydrochlorothiazide) เป็นยาขับปัสสาวะ ที่จัดอยู่ในกลุ่มสารไทอะไซด์ (Thiazide: กลุ่มสารขับปัสสาวะกลุ่มหนึ่ง) หลายสถานพยาบาลอาจเรียกย่อๆว่า ยาเฮชซีทีแซด (HCTZ)
องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์เป็นยาสำหรับสาธารณสุขขั้นพื้น ฐานในแต่ละประเทศ สำหรับประเทศไทยจัดยานี้อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ หมวดยาขับปัสสาวะ และเป็นยาอันตราย
หน้าที่หลักของยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ คือ การยับยั้งหรือชะลอการดูดน้ำกลับเข้าร่าง กายที่กรวยไต ส่งผลให้ปริมาณเลือดในร่างกายลดลง เลือดที่ไหลเวียนเข้าหัวใจเพื่อสูบฉีดไป เลี้ยงร่างกายก็ลดลงเช่นเดียวกัน และยังมีกลไกอื่นอีกที่สนับสนุนเหตุผลข้างต้น เช่นทำให้ความดันโลหิตลดลง
หลังจากรับประทานยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ และยาดูดซึมทางระบบทางเดินอาหารเข้ากระแสเลือด ปริมาณยามากกว่า 95% ไม่ได้ถูกเปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี ร่างกายใช้เวลาประ มาณ 5.6 - 14.8 ชั่วโมงในการกำจัดยาออกจากร่างกาย 50% โดยผ่านไปกับน้ำปัสสาวะ
การใช้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ที่ถูกต้องเหมาะสมปลอดภัยและเป็นผลดีต่อผู้ป่วย ควร ต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษา และไม่ควรไปหาซื้อมารับประทานเอง
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีสรรพคุณดังนี้คือ
- รักษาโรคความดันโลหิตสูง
- ลดอาการบวมน้ำของร่างกาย
- ป้องกันภาวะนิ่วในไต
- รักษาโรคกระดูกพรุน
- รักษาภาวะ/โรคเบาจืด
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีกลไกการออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์จะออกฤทธิ์ที่กรวยไต โดยลดปริมาณเลือดที่จะไหลเวียนเข้าไต อีกทั้งยังลดการดูดกลับของเกลือโซเดียมเข้าสู่ร่างกาย ด้วยกลไกดังกล่าว ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์จึงสามารถลดความดันโลหิตสูงและขับน้ำออกจากร่างกายได้ในที่สุด
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีรูปแบบการจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์จัดจำหน่ายในรูปแบบ ชนิดยาเดี่ยวขนาดความแรง 50 และ 100 มิลลิกรัม/เม็ด และจัดจำหน่ายเป็นประเภทยาผสมกับยาอื่น เช่น ยารักษาความดันโลหิตสูงบางชนิด (แต่มิได้นำมากล่าวอ้างในบทความนี้)
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีขนาดรับประทานอย่างไร?
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีขนาดรับประทานดังนี้
ก. ในผู้ใหญ่:
- รักษาความดันโลหิตสูง: รับประทานเริ่มต้นที่ 12.5 มิลลิกรัม วันละครั้งหลังอาหารเช้า แล้วเพิ่มการรับประทานเป็น 25 - 100 มิลลิกรัมต่อวัน โดยแบ่งรับประทาน
- ลดอาการบวมของร่างกายในภาวะมีโรคหัวใจล้มเหลวร่วมด้วย: รับประทาน 25 -100 มิลลิกรัมต่อวันหลังอาหารเช้า หากอาการดีขึ้นอาจจะลดลงเป็น 25 - 50 มิลลิกรัมต่อวัน ในกรณีที่มีอาการรุนแรงอาจปรับขนาดในช่วงแรกๆได้สูงสุดถึง 200 มิลลิกรัมต่อวัน
- รักษาโรคเบาจืดที่มีโรคไตร่วมด้วย: ขนาดรับประทานเริ่มต้นได้สูงถึง 100 มิลลิกรัมต่อวัน
ข. ในเด็ก:
- รักษาโรคเบาจืดที่มีภาวะโรคไตร่วมด้วยในผู้ป่วยเด็ก: ขนาดรับประทานเริ่มต้น1 - 2 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวันโดยแบ่งรับประทาน และเด็กที่มีอายุมากกว่า 2 ปี สามารถรับประทานยานี้ได้สูงถึง 3 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน
*****หมายเหตุ
ควรรับประทานยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์หลังอาหาร และขนาดรับประทานที่เหมาะโดย เฉพาะในเด็ก สมควรต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ผู้ทำการรักษาเท่านั้น
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยา บาลและเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิด เช่น กินยาแล้ว คลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หาย ใจลำ บาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆเช่น โรคไต โรคตับ รวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์อาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรี ควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
หากลืมรับประทานยาควรทำอย่างไร?
หากลืมรับประทานยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ สามารถรับประทานเมื่อนึกขึ้นได้ ถ้าเวลาใกล้เคียงกับการรับประทานยาในมื้อถัดไป ไม่จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณยาเป็น 2เท่า
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีผลไม่พึงประสงค์อย่างไร?
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์สามารถก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์ (อาการข้างเคียง/ผลข้าง เคียง) ได้ดังนี้ เช่น ทำให้ร่างกายเสียสมดุลของเกลือแร่, รู้สึกระคายเคืองในทางเดินอาหาร, เบื่ออาหาร, ปวดหัว/ปวดศีรษะ, วิงเวียน, ความดันโลหิตต่ำ, ปากแห้ง กระหายน้ำ, ท้องเสีย, ท้องผูก, ตัวซีด, ตับอ่อนอักเสบ, และอาจมีอาการของโรคเกาต์กำเริบ
มีข้อควรระวังการใช้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์อย่างไร?
ข้อควรระวังการใช้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ มีดังนี้
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ป่วยแพ้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์และแพ้ยาซัลโฟนาไมด์
- ห้ามใช้ยานี้กับผู้ปัสสาวะไม่ออก
- ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่มีภาวะตับ - ไตบกพร่องอย่างรุนแรง
- ห้ามใช้ยานี้ในผู้ป่วยด้วยโรคต่อมไร้ท่อที่ชื่อ Addison's disease
- ห้ามใช้ยานี้ในหญิงตั้งครรภ์ หญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ระวังการใช้ยานี้กับผู้ที่กำลังควบคุมเกลือแร่ของร่างกายและในผู้สูงอายุ
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
***** อนึ่ง
ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด(รวมยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิด และสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิด ควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่น กัน
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นอย่างไร?
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีปฏิกิริยาระหว่างยากับยาตัวอื่นเช่น
- การใช้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ร่วมกับยารักษาอาการทางจิตประสาท อาจทำให้ยารักษาอา การทางจิตฯมีระดับปริมาณในกระแสเลือดสูงขึ้น อาจทำให้เกิดภาวะท้องเสีย อาเจียน ง่วงนอน สั่น กระหายน้ำ ยารักษาอาการทางจิตดังกล่าว เช่น Lithium
- การใช้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ร่วมกับยารักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่างๆเช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะมากขึ้น วิงเวียน เป็นลม อ่อนเพลีย สับสน ง่วงนอน ปวดกล้ามเนื้อ เป็นตะคริว ซึ่งภายหลังรับประทานยา ถ้ามีอาการดังกล่าวควรต้องพาผู้ป่วยไปพบแพทย์/ไปโรงพยา บาลโดยเร็ว ยารักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะดังกล่าว เช่น Amidarone
- การใช้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ร่วมกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ อาจทำให้เกิดภาวะปวดหัว/ปวดศีรษะ วิงเวียน เป็นลม จึงห้ามรับประทานร่วมกัน
- อาจทำให้เกิดภาวะของเกลือโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatraemia ) เมื่อใช้ร่วมกับยาบำ บัดรักษาโรคลมชัก เช่น Carbamazepine
- อาจเพิ่มความเสี่ยงของความเป็นพิษต่อร่างกายเมื่อใช้ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ร่วมกับยารัก ษาโรคเกาต์และยาปฏิชีวนะบางตัว เช่น Allopurinol และ Tetracycline ตามลำดับ
ควรเก็บรักษายาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์อย่างไร?
สามารถเก็บยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ที่อุณหภูมิห้อง บรรจุยาในภาชนะที่ปิดมิดชิด เก็บในที่ที่พ้นแสงสว่าง แสงแดด หลีกเลี่ยงความร้อนและความชื้น ไม่เก็บยาในห้องน้ำ และเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์มีชื่ออื่นอีกไหม? ผลิตจากบริษัทอะไร?
ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ที่จำหน่ายในประเทศไทย มียาชื่อการค้าอื่นๆและบริษัทผู้ผลิต เช่น
ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
---|---|
Dichlotride (ไดคลอไทรด์) | M & H Manufacturing |
Diric (ไดริก) | The Forty-Two |
Diuret-P (ไดยูเรท-พี) | P P Lab |
Dragotab (ดราโกแท็บ) | K.B. Pharma |
HCTZ/Hydrochlorothiazide T.O. (เอชซีทีแซด/ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ที.โอ.) | T.O. Chemicals |
Hychlozide (ไฮคลอไซด์) | Pharmasant Lab |
Hydrochlorothiazide GPO (ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ จีพีโอ) | GPO |
Hydrochlorothiazide Union Drug (ยาไฮโดรคลอโรไทอะไซด์ ยูเนียน ดรัก) | Union Drug |
Hydrochlorthiazide (ยาไฮโดรคลอร์ไทอะไซด์) | BJ Benjaosoth |
Hydrozide Atlantic (ไฮโดรไซด์) | Atlantic Lab |
Hydrozide Medicine Products (ไฮโดรไซด์ เมดิซีน โพรดักส์) | Medicine Products |
Urazide (ยูเรไซด์) | A N H Products |
บรรณานุกรม
1. http://en.wikipedia.org/wiki/Hydrochlorothiazide#Medical_uses [2014,July26]
2. www.mims.com/USA/drug/info/hydrochlorothiazide/ [2014,July26]
3. http://www.drugs.com/drug-interactions/hydrochlorothiazide.html [2014,July26]
4. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/meds/a682571.html#storage-conditions [2014,July26]
2. www.mims.com/USA/drug/info/hydrochlorothiazide/ [2014,July26]
3. http://www.drugs.com/drug-interactions/hydrochlorothiazide.html [2014,July26]
4. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/meds/a682571.html#storage-conditions [2014,July26]
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น