ยาอะทีโนลอล ( Atenolol )
บทนำ
อะทีโนลอล (Atenolol) เป็นกลุ่มยาที่จัดอยู่ในกลุ่มเบต้าบล็อคเกอร์/Beta-blocker ใช้รักษาโรคทางหลอดเลือดของหัวใจ ถูกสังเคราะห์และนำมาใช้ในปี พ.ศ. 2519 ข้อดีของยานี้คือไม่ซึมผ่านเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลางจึงสามารถหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่จะเกิดต่อสมอง
ในทางการแพทย์ยานี้ถูกนำมาใช้รักษาสภาวะความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจขาดเลือด ภาวะหัวใจล้มเหลวชนิดฉับพลัน ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด Superaventicular tachycardia ในบางครั้งยังถูกนำไปรักษาผู้ป่วยที่เสพติดเหล้า ช่วยบำบัดภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง (ไท รอยด์เป็นพิษ) หรือแม้แต่ใช้ป้องกันการเกิดไมเกรน (Migraine) เป็นต้น
ยาอะทีโนลอลเมีสรรพคุณ (คุณสมบัติ) อย่างไร?
ยาอะทีโนลอลใช้รักษาโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือดเช่น ลดความดันโลหิตสูง (Hypertension), หัวใจเต้นผิดจังหวะชนิด Supraventicular tachycardia & ventricular tachycardia, ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด (Angina), ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย (Myocardial Infarction) และป้องกันการเกิดไมเกรน (Migraine)
ยาอะทีโนลอลออกฤทธิ์อย่างไร?
ยาอะทีโนลอลออกฤทธ์โดยจะปิดกั้นการทำงานของสารเคมีบางตัวในร่างกายที่เรียกว่า Catecholamines ทำให้ลดอัตราการเต้นของหัวใจและหลอดเลือดบีบตัวน้อยลงส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง
ยาอะทีโนลอลมีรูปแบบจัดจำหน่ายอย่างไร?
ยาอะทีโนลอลมีรูปแบบการจัดจำหน่ายเป็นยาเม็ด ขนาด 25, 50 และ 100 มิลลิกรั
ยาอะทีโนลอลมีขนาดรับประทานอย่างไร?
ขนาดของยาอะทีโนลอลที่รับประทานในผู้ใหญ่และเด็กมีขนาดที่ต่างกัน สามารถรับประ ทานยาก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ การดูดซึมเข้าร่างกายได้รวดเร็วและเริ่มออกฤทธิ์ภายใน 2 - 4ชั่วโมงหลังกินยา แต่ไม่ควรซื้อยากินเอง ต้องได้รับคำแนะนำการใช้ยาจากแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น
ขนาดใช้รักษาความดันโลหิตสูง รักษาภาวะเจ็บหน้าอก (Angina Pectoris) และป้องกันไมเกรน (Migraine) รับประทานในปริมาณสูงสุดไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน
การได้รับยาเกินขนาดจะทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นช้า หลอดลมหดเกร็ง น้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งรักษาแก้ไขโดยการล้างท้องหรือทำให้อาเจียนเอายาออกมา
*****หมายเหตุ:
ขนาดยาและระยะเวลาในการใช้ยาที่ระบุในบทความนี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำสั่งใช้ยาของแพทย์ผู้รักษาได้ การใช้ยาที่เหมาะสมควรต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนเสมอ
เมื่อมีการสั่งยาควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกรอย่างไร?
เมื่อมีการสั่งยาทุกชนิดที่รวมถึงยาอะทีโนลอล ผู้ป่วยควรแจ้งแพทย์/พยาบาลและเภสัชกร ดังนี้
- ประวัติแพ้ยาทุกชนิดเช่น ใช้ยาแล้วคลื่นไส้มาก ขึ้นผื่น หรือแน่นหายใจติดขัด/หายใจลำบาก
- มีโรคประจำตัวต่างๆรวมทั้งกำลังกินยาอะไรอยู่ เพราะยาอะทีโนลอลอาจส่งผลให้อาการของโรคเหล่านั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดปฏิกิริยาระหว่างยากับยาอื่นๆที่กินอยู่ก่อน
- หากเป็นสุภาพสตรีควรแจ้งว่าอยู่ในภาวะตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะยาหลายประเภทสามารถผ่านทางน้ำนมหรือรกและเข้าสู่ทารก จนก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้
ยาอะทีโนลอลมีผลไม่พึงประสงค์ไหม?
ยาอะทีโนลอลมีผลข้างเคียงหรือผลไม่พึงประสงค์คือ อาจก่อให้เกิดภาวะหลอดลมตีบและมีอาการโรคหืด อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ง่วงนอน หงุดหงิด รบกวนระบบทาง เดินอาหาร ท้องเสีย ท้องผูก น้ำลายแห้ง/ปากแห้ง รวมถึงความรู้สึกสัมผัสสูญเสีย
ยาอะทีโนลอลมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่นไหม?
ยาอะทีโนลอลมีปฏิกิริยากับยาตัวอื่น (ปฎิกิริยาระหว่างยา) ได้ดังนี้
- เมื่อกินร่วมกับยาที่ใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะสามารถก่อให้เกิดอาการหัวใจเต้นช้าลง ซึ่งกลุ่มยาที่ใช้รักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะเช่น อะมิโอดาร์โรน (Amiodarone )
- เมื่อกินร่วมกับยาปฎิชีวนะสามารถส่งผลให้ฤทธิ์ในการรักษาของยาอะทีโนลอลลดลง ซึ่งกลุ่มยาปฎิชีวนะดังกล่าวเช่น แอมพิซิลลิน (Ampicillin) ไรแฟมพิซิน (Rifampicin)
- เมื่อกินร่วมกับยาบำรุงกระดูกเช่น แคลเซียม จะทำให้ระดับยาอะทีโนลอลในกระแสเลือดลด ลงมากกว่า 50%
มีข้อควรระวังไหมเมื่อกินยาอะทีโนลอล?
ข้อควรระวังข้อห้ามเมื่อใช้ยาอะทีโนลอลเช่น
- ห้ามใช้ยากับผู้ที่แพ้ยานี้ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นช้าผิดปกติ ผู้ที่มีภาวะการไหลเวียนของเลือดบริเวณหัวใจผิดปกติ
- ระวังการใช้ยาอะทีโนลอลกับผู้สูงอายุ เด็ก หญิงที่อยู่ในภาวะให้นมบุตร ผู้ที่มีภาวะตับและ/หรือไตทำงานผิดปกติ ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลวอย่างเฉียบพลัน
- ห้ามแบ่งยาให้ผู้อื่นใช้
- ห้ามใช้ยาหมดอายุ
- ห้ามเก็บยาหมดอายุ
********** อนึ่ง:
ทุกคนต้องตระหนักถึงความปลอดภัยจากการใช้ ”ยา” ที่รวมถึงยาแผนปัจจุบันทุกชนิด (รวมถึงยาอะทีโนลอลด้วย) ยาแผนโบราณทุกชนิดและสมุนไพรต่างๆเสมอ เพราะยามีทั้งให้คุณและให้โทษ ดังนั้นเมื่อมีการใช้ยาทุกชนิดควรต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิดเสมอ (อ่านเพิ่มเติมได้ในเว็บ haamor.com บทความเรื่อง ข้อปฏิบัติพื้นฐานในการใช้ยาทุกชนิด) รวมทั้งควรต้องปรึกษาเภสัชกรประจำร้านขายยาก่อนซื้อยาใช้เองเสมอด้วยเช่นกัน
ควรเก็บรักษายาอะทีโนลอลอย่างไร?
ควรเก็บรักษายาอะทีโนลอลภายใต้อุณหภูมิ 20 - 25 องศาเซลเซียส (Celsius) ห้ามเก็บยาในช่องแช่แข็งของตู้เย็น เก็บยาให้พ้นแสงแดดและความชื้น ควรเก็บยาให้พ้นมือเด็กและสัตว์เลี้ยง และไม่เก็บยาให้องน้ำ หรือในรถยนต์
ยาอะทีโนลอลมีชื่ออื่นๆอีกไหม? ผลิตโดยบริษัทอะไรบ้าง?
ชื่อยาชื่อการค้าและบริษัทผู้ผลิตยาอะทีโนลอลที่จำหน่ายในประเทศไทยเช่น
| ชื่อการค้า | บริษัทผู้ผลิต |
|---|---|
| Atenol (อะทีนอล) | T. O. Chemicals |
| Betaday-50 (เบตาเดย์ 50) | Vesco Pharma |
| Catenol (คาทีนอล) | Zydus adila |
| Enolol (อีโนลอล) | Charoon Bhesaj |
| Esnolol (เอสโนลอล) | Emcure Pharma |
| Eutensin (ยูเทนซิน) | Greater Pharma |
| Oraday (ออราเดย์) | Biolab |
| Tenocard (ทีโนคาร์ด) | IPCA |
| Tenormin (ทีนอมิน) | AstraZeneca |
| Tenrol (เทนโรล) | Unique |
| Velorin (เวโลริน) | Remedica |
บรรณานุกรม
1. Drug Information Handbook 20th edition with Charles Flacy RPh. Ms, Pharm D FCSHP , Lora L.Armstrong RPh, PharmD BCPS , Morton P.Goldman, RPh, PharmD BCPS,FCCP , Leonard L. RPh. BSPharm
2. http://www.mims.com/THAILAND/Home/GatewaySubscription/?generic=atenolol [2015,April25]
2. http://www.mims.com/THAILAND/Home/GatewaySubscription/?generic=atenolol [2015,April25]


ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น